วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

กลับบ้านแล้วนะ



ถึงเวลาที่เราจะต้องกลับบ้านแล้วสิ


มาอยู่ที่นี่ได้เกือบสี่ปีแล้ว


คนเชียงใหม่ ดีกับเรามากๆ


จากที่ได้มาเรียน ทำให้ได้หลายๆอย่างกลับไป


โดยเฉพาะทุกๆคนใน บ้านและชุมชน


จะไม่ลืมช่วงดีๆนี้เลย


บาย บาย..

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

สมัครงาน




ตลกดี


วันนี้ไปสมัครงานกับน้องโอ นัก


ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจนะ แต่ว่าพอเขียนใบสมัครและเขาสัมภาษณ์


ปรากฏว่าพวกเราได้งานค่ะ


ได้ทั้งสามคน โดยที่ไม่ทันตั้งตัว


พอกลับมาเจ๊บิ๊กกับก้องสนใจก็ไปลองสมัครดู


เค้ารับนะคะ สรุปว่าถ้าไหม่มีไรเปลี่ยนแปลง พวกเราก็ต้องไปทำงานที่เกาะช้างกันจริงๆ


คิดๆดูก็ตลกดีนะ จู่ๆก็ได้งาน และยังได้ไปกับเพื่อนอีก


หวังว่าคงจะไม่มีไรเปลี่ยนแปลงนะ


แล้วเจอกันนะคะ ....เกาะช้าง


วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

แตกต่าง แต่ เติมเต็ม


แปลกมั๊ย...ใครๆ ก็คิดว่าเวลากับนาฬิกาเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอ

จริงๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซักหน่อย

> > เวลา... เดินไปข้างหน้า> นาฬิกา... เดินอยู่ที่เก่า

เวลา... เราไม่อาจย้อนกลับ> นาฬิกา... เราหมุนย้อนมันได้


> > เวลา... เมื่อสูญเสียไปแล้วไม่อาจเรียกร้องคืน

นาฬิกา... เสียก็ซ่อม หรือซื้อใหม่ไปเลย

เวลา... ได้มาฟรีๆ ไม่ต้องแลกกะอะไร

นาฬิกา... ยิ่งสวยยิ่งแพง ใช้เงินซื้อมันมาทั้งนั้น


> > แล้วอย่างนี้ มันจะคู่กันได้ยังไง

ในเมื่อมันแตกต่างกันเหลือเกิน

แต่ถามหน่อย... ถ้าไม่มีนาฬิกา จะรู้เวลามั๊ย


> > หรือถ้ามีแต่นาฬิกา แต่ไม่รู้จักเวลา จะมีประโยชน์อะไร

ถึง 2 สิ่งจะแตกต่างกัน แต่ถ้ามันจะคู่กันแล้ว

ย่อมมีจุดร่วมกันเสมอ เพียงแต่จะมองเห็นมันรึป่าว ?


> > ฉัน... อาจเหมือนกับเวลา ที่ชอบเดินไปข้างหน้า

หาสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย โดยทิ้งหลายสิ่งไว้ข้างหลัง

เค้า... อาจเหมือนกับนาฬิกา ที่ยังเป็นแบบเดิมๆ

ใช้ชีวิตและทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ ในมุมเก่าๆ


> > ฉันอาจไม่พบกับเค้าเลย ถ้าฉันยังดึงดันจะมองแต่ข้างหน้า

ฉันอาจไม่พบกับเค้าเลย ถ้าฉันไม่มองไปข้างหลัง

เค้ายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังอยู่แบบเดิมๆ

เค้ายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของเขาไป


> > แต่ฉันยังเฝ้ามอง เฝ้ารอ …

ความแตกต่าง อาจสร้างกำแพงบังเค้าไว้

แต่ฉันยังเชื่อมั่น ว่าซักวัน สิ่งนั้นนั่นแหละ

ที่จะเชื่อมโยงใจเราเข้าหากัน


> > ความแตกต่าง จะเติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย

> และสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงแค่คำว่า … กันและกัน...

> เหมือนกับเวลาและนาฬิกา

> ที่ยังคู่กันเสมอมาและตลอดไป> >


ที่มา จาก email

Final




จะสอบอีกแล้ว.....ใกล้ถึงเทศกาลที่ทุกคนต้องขยันเป็นพิเศษ เพราะช่วงเวลาแห่งการอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ ขมักเขม่น และจำใจอ่าน ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว
ช่วงนี้งานจะเยอะมากๆ ไม่ใช่อาจารย์แกล้งนะ แต่สะสมกันเองรอมาถึงปลายเทอมก็เลย บึน




////ทำงานดีกว่าขี้เกียจเขียนละ ไว้มาเขียนใหม่////




วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

seminar



presentสัมนาแล้วดีใจจัง

ในที่สุดด้วยความพยายามเราก็สามารถผ่านมันไปด้วยดี

" ความพยามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น"

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2551

สัมอีกแล้ว


ฝนตกอีกแล้วหล่ะสิ........
อากาศแบบนี้น่านอนมากๆเลย
แต่วันนี้ยังนอนไม่ได้เพราะใกล้จะ present สัมนาแล้ว
รู้สึกว่าซื้อโน๊ตบุ๊คมาใช้คุ้มมากๆเมื่อเรียนสัมนา...
ไปละไม่รู้จะเขียนไรแล้ว .....................ทำสัมต่อดีกว่า

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ถ้าความรักดั่งกาแฟสำเร็จรูป

ความรักดั่งกาแฟสำเร็จรูปเหมือนรสจูบไร้ดื่มด่ำฉ่ำความหวาน
ทั้งฉาบฉวยรวบรัดเกินทัดทานอาจร้าวรานเมื่อรักร้างต่างรุนแรง


ให้ความรักดั่งกาแฟที่ใหม่สดคั่วและบดหยาบป่นจนหอมแห้ง
กรองใส่ถ้วยรินน้ำร้อนร่อนตะแกรงกรุ่นกลิ่นแรงหอมหวลชวนให้รอ



ทีละหยดทีละหยดสดลงแก้วแท้จริงแล้วต้องอดทนมิย่นย่อ
กลั่นความรักจากใจให้เพียงพอความสุขก่อคุ้มค่าท้าให้คอย




เติมความหวานด้วยน้ำตาลผสานผสม ลดความขมนมเสริมเพิ่มอร่อย
รสกลมกล่อมจิบอุ่นอุ่นสูดกลิ่นลอยทีละน้อยค่อยค่อยดื่มลืมไม่ลง


เหมือนกับการกลั่นกรองของความรักจะประจักษ์รักยิ่งใหญ่ใช่ความหลง
เฝ้าถนอมน้ำใจให้ยืนยงไม่หวือหวาแต่มั่นคงและจริงใจ

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สัมนา...


สัมนา......................
บึนเว่อ ....เหนื่อยจัง ตอนนี้สัมนาก็ใกล้จะจบแล้วเหลือแปรผลข้อมูล กลัวไม่ทันเพราะ ต้องพรีเซ้นคนแรกเลย แต่มันงงอ่ะ ไม่รู้จะทำไรก่อนหลังดี เมื่อไหร่จะผ่านพ้นไปสักที ปวดหัวมากๆ
สัมนาจ๋า......................

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เลี้ยงน้อง







วันนี้พาน้องรหัสไปเลี้ยงที่ hotpotมา อิ่มมากๆ เป็นปีแรกที่ได้กินของดีขนาดนี้เพราะที่ผ่านมานะ กินแต่หมูกะทะทั้งนั้น วันนี้ น้องอาร์ต กินคุ้มจริงๆของชอบเค้าเลยโหวดเองเลยแหละไม่สนคนจ่ายบ้างเลย ส่วนน้องบลู กับ น้องหนึ่งนะก็กินแบบกลัวอ้วน คุ้มมั้ยเนี่ย แต่ว่าวันนี้ก็สนุกดีได้คุยกับน้องมากขึ้น ไว้พี่มีตังค์เราค่อยไปกินกันอีกนะ

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คิดถึง

เที่ยวทะเล
แม่ลูก
ถึง.....แม่


ตอนนี้แม่ไม่ค่อยสบาย อาการปวดขากำเริบอีกแล้ว

แม่ทำงานหนักไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย

หนูอยากให้แม่พักบ้าง ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเดิมอีกแล้วนะ

อยากให้แม่ดูแลตัวเอง อยากให้แม่ห่วงตัวเองมากๆ

ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะ หนูจะดูแลตัวเอง

อีกไม่นานหรอก หนูจะก็ได้กลับไปดูแลแม่แล้ว

คิดถึงพ่อ แม่และทุกๆคน

"รักนะ"


//ลูกสาว//

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

นาฬิกาชีวิต


ชีวิตเรา อะไรก็ไม่แน่นอน
ควรจะบริหารเวลาให้เหมาะสม


นาฬิกาชีวิต
1.00-3.00 น. นอนซะ
3.00-5.00 น. ตื่นมาสูดอากาศ
5.00-7.00 น. ขับถ่าย
7.00-9.00 น. กินข้าวเช้า
9.00-11.00 น. อย่าพูดมาก กินน้อยๆ อย่านอน
11.00-13.00 น. หลีกเลี่ยงความเครียด
13.00-15.00 น. ห้ามกิน
15.00-17.00 น. ออกกำลังหรืออบตัวให้เหงื่อออก
17.00-19.00 น. ทำให้สดชื่น อย่าง่วง
19.00-21.00 น. ทำสมาธิ
21.00-23.00 น. ทำตัวให้อุ่นๆ ไว้
23.00-1.00 น. กินน้ำก่อนนอน

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551


คิดถึงบ้านจัง...






ฝนตกอีกแล้ว....

ไม่ได้ออกไปไหนเลย หิว หิว

ต้องกินมาม่าอีกแล้วสิ

เฮ้อ................




คำพ่อสอน (ต่อ)

อ่านแล้วชอบก็เลยอยากแบ่งปัน เป็นข้อคิดเตือนใจสำหรับการดำเนินชีวิต

4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้

คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้

5. อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ

ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม

6. พูดจริง ทำจริง

ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม

7. หนังสือเป็นออมสิน

หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้ สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้

8. ความซื่อสัตย์

ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง

9. การเอาชนะใจตน

ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ

พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ วันเด็ก ประจำปี 2521




วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คำพ่อสอน



1. ความเพียร

การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันครึทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีไม่ครึต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง

2. ความพอดี

ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน

3. ความรู้ตน

เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน


ลองทำ

วันนี้มาลองทำก่อนไว้วันหลังจะมาแก้ไข